อ่านบทต่อไป อ่านบทก่อนหน้า |
ฑูตของพระเจ้าที่โบคิม 1 ฝ่ายทูตของพระเจ้าได้ขึ้นไปจากกิลกาลถึงโบคิม และท่านกล่าวว่า "เราได้ให้เจ้าทั้งหลายขึ้นไปจากอียิปต์ และได้นำเจ้าเข้ามาในแผ่นดินซึ่งเราปฏิญาณไว้แก่บรรพบุรุษของเจ้าเราว่า "เราจะไม่หักพันธสัญญาที่เราได้มีไว้กับเจ้าเลย
2 และเจ้าทั้งหลายอย่าทำพันธสัญญากับชาวแผ่นดินนี้เจ้าต้องทำลายแท่นบูชาของเขาเสีย" แต่เจ้ามิได้เชื่อฟังบัญชาของเรา เจ้าทำอะไรเช่นนี้เล่า
3 ฉะนั้นเรากล่าวด้วยว่า เราจะไม่ขับไล่เขาเหล่านั้นออกไปให้พ้นหน้าเจ้า แต่เขาจะเป็นหอกข้างแคร่ของเจ้า และพระของเขาจะเป็นบ่วงดักเจ้า"
4 อยู่มาเมื่อทูตของพระเจ้ากล่าวคำเหล่านี้แก่คนอิสราเอลแล้ว ประชาชนทั้งหลายก็ส่งเสียงร้องไห้
5 และเขาเรียกที่ตำบลนั้นว่า โบคิม (แปลว่า ผู้ร้องไห้) และเขาทั้งหลายได้ถวายสัตวบูชาแด่พระเจ้าที่นั่น
มรณกรรมของโยชูวา 6 เมื่อโยชูวาปล่อยประชาชนไปแล้วคนอิสราเอลต่างก็เข้าไปอยู่ในมรดกที่ดินของตนเพื่อยึดครอง
7 ประชาชนทั้งหลายได้ปรนนิบัติพระเจ้าตลอดชีวิตของโยชูวา และตลอดชีวิตของพวกผู้ใหญ่ที่มีอายุยืนนานกว่าโยชูวาผู้ซึ่งได้เห็นปวงมหกิจ ซึ่งพระเจ้าได้ทรงกระทำเพื่ออิสราเอล
8 โยชูวาบุตรนูนผู้รับใช้ของพระเจ้าสิ้นชีวิตเมื่ออายุได้หนึ่งร้อยสิบปี
9 เขาทั้งหลายก็ฝังท่านไว้ในเขตที่ดินมรดกของท่านที่เมืองทิมนาทเฮเรส ในแดนเทือกเขาเอฟราอิมทิศเหนือของภูเขากาอัช
10 และชาตพันธุ์รุ่นนั้นทั้งสิ้น ก็ถูกรวบไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาอีกชาตพันธุ์หนึ่งก็เกิดขึ้นตามมา เขาไม่รู้จักพระเจ้าหรือรู้พระราชกิจซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำเพื่ออิสราเอล
การที่อิสราเอลละทิ้งพระเจ้าและงานปฏิบัติของผู้วินิจฉัย 11 คนอิสราเอลก็กระทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรพระเจ้า คือปรนนิบัติพระบาอัลทั้งหลาย
12 เขาได้ละทิ้งพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขา ผู้ทรงนำเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ และเขาทั้งหลายติดตามพระอื่นซึ่งเป็นพระของชนชาติทั้งหลายที่อยู่ล้อมรอบเขา กราบไหว้พระเหล่านั้น กระทำให้พระเจ้าทรงพิโรธ
13 เขาทั้งหลายละทิ้งพระเจ้าไปปรนนิบัติพระบาอัล และพวกพระอัชทาโรท
14 ดังนั้นพระพิโรธของพระเจ้าจึงพลุ่งขึ้นต่ออิสราเอล พระองค์จึงทรงมอบเขาไว้ในมือพวกปล้นผู้ปล้นเขา และทรงขายเขาไว้ในอำนาจของบรรดาศัตรูที่อยู่รอบเขาทั้งหลาย ดังนั้นเขาทั้งหลายจึงต่อต้านพวกศัตรูของเขาทั้งหลายต่อไปไม่ได้
15 เขาทั้งหลายออกไปรบเมื่อไร พระหัตถ์ของพระเจ้าก็ต่อต้านเขา กระทำให้เขาพ่ายแพ้ดังที่พระเจ้าได้ตรัสไว้แล้ว และดังที่พระเจ้าทรงปฏิญาณไว้กับเขาและเขาทั้งหลายก็มีความทุกข์ยิ่งนัก
16 พระเจ้าทรงให้เกิดผู้วินิจฉัย ผู้ช่วยเขาทั้งหลายให้พ้นมือของผู้ที่ปล้นเขา
17 แต่เขาทั้งหลายก็ยังไม่เชื่อฟังผู้วินิจฉัยทั้งหลายของเขา เพราะเขาทั้งหลายเล่นชู้กับพระอื่น และกราบไหว้พระอื่น ไม่ช้าเขาก็หันไปเสียจากทางซึ่งบรรพบุรุษของเขาได้ดำเนิน ผู้ได้เชื่อฟังพระธรรมบัญญัติของพระเจ้า แต่เขาทั้งหลายมิได้กระทำตาม
18 พระเจ้าทรงตั้งผู้วินิจฉัยขึ้นเมื่อไร พระเจ้าก็ทรงสถิตกับผู้วินิจฉัยนั้นเมื่อนั้น และพระองค์ทรงช่วยเขาทั้งหลายให้พ้นจากเงื้อมมือของศัตรูตลอดชีวิตของผู้วินิจฉัย เพราะพระเจ้าทรงกลับพระทัยสงสารเขาทั้งหลาย เมื่อทรงฟังเสียงคร่ำครวญของเขาเนื่องด้วยผู้ข่มเหงและบีบบังคับ
19 แต่อยู่มาเมื่อผู้วินิจฉัยนั้นสิ้นชีวิต เขาทั้งหลายก็หันกลับประพฤติชั่วร้ายเสียยิ่งกว่าบิดาของเขาหลงไป ติดตามปรนนิบัติ และกราบไหว้พระอื่น เขามิได้เคยงดเว้นความชั่วที่เคยกระทำหรือหายจากทางดื้อดึงของเขา
20 ดังนั้นพระพิโรธของพระเจ้าจึงพลุ่งขึ้นต่ออิสราเอล และพระองค์ตรัสว่า "เพราะประชาชาตินี้ได้ละเมิดต่อพันธสัญญา ซึ่งเราได้บัญชาไว้กับบรรพบุรุษของเขา และไม่ยอมฟังเสียงของเรา
21 ดังนั้นตั้งแต่นี้ต่อไปเราจะไม่ขับไล่ประชาชาติใด ในบรรดาประชาชาติซึ่งโยชูวาทิ้งไว้เมื่อเขาสิ้นชีวิตนั้นให้พ้นหน้า
22 เพื่อเราจะใช้ประชาชาติเหล่านั้นทั้งสิ้นทดสอบอิสราเอลว่า เขาจะรักษาพระมรรคาของพระเจ้าและดำเนินตามอย่างบรรพบุรุษของเขาหรือไม่"
23 ดังพระเจ้าทรงปล่อยประชาชาติเหล่านั้นไว้ ไม่ทรงขับไล่ให้ออกไปเสียโดยเร็ว และพระองค์มิได้ทรงมอบเขาทั้งหลายไว้ในมือของโยชูวา
|
อ่านบทต่อไป อ่านบทก่อนหน้า |
สงวนลิขสิทธิ ℗ 2011 iChurch.in.th | ติดต่อเรา หรือ แนะนำติชม |