บทที่
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21
1 2 3 4
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
1 2 3 4 5 6 7 8
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14
1 2 3
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
1 2 3 4
1 2 3 4 5 6 7
1 2 3
1 2 3
1 2 3
1 2
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14
1 2 3 4
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13
1 2 3 4 5 6
1 2 3 4 5 6
1 2 3 4
1 2 3 4
1 2 3 4 5
1 2 3
1 2 3 4 5 6
1 2 3 4
1 2 3
1
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3
1 2 3 4 5
1
1
1

2 ทิโมธี 1
บทที่
1234
อ่านบทต่อไป
1 จาก เปาโล อัครทูตของพระเยซูคริสต์ตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ผู้ได้รับมอบการประกาศพระสัญญา ที่จะทรงประทานชีวิตซึ่งมีในพระเยซูคริสต์ 2 ถึง ทิโมธี บุตรที่รักของเรา ขอพระคุณและพระเมตตา และสันติสุขจากพระบิดาเจ้า และพระเยซูคริสตเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา จงดำรงอยู่กับท่านเถิด
อย่าละอาย
3 เมื่อข้าพเจ้าระลึกถึงท่านในการอธิษฐานอยู่เสมอนั้น ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าซึ่งข้าพเจ้าได้รับใช้ ด้วยจิตสำนึกอันบริสุทธิ์เช่นบรรพบุรุษของข้าพเจ้า 4 ขณะเมื่อระลึกถึงน้ำตาของท่าน ข้าพเจ้าก็ปรารถนาทั้งวันทั้งคืนที่จะได้พบท่าน ซึ่งจะทำให้ข้าพเจ้ายินดีอย่างยิ่ง 5 ข้าพเจ้าระลึกถึงความเชื่ออย่างจริงใจของท่าน อันเป็นความเชื่อซึ่งเมื่อก่อนได้มีอยู่ในโลอิสยายของท่าน และในยูนีสมารดาของท่านและบัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อว่ามีอยู่ในท่าน 6 อันของประทานของพระเจ้าซึ่งมีอยู่ในท่าน โดยที่ข้าพเจ้าได้เอามือวางบนท่านนั้น ขอเตือนว่าท่านจงกระทำให้รุ่งเรืองขึ้น 7 เพราะว่าพระเจ้ามิได้ทรงประทานจิตที่ขลาดกลัวให้เรา แต่ได้ทรงประทานจิตที่กอปรด้วยฤทธิ์ความรัก และการบังคับตนเองให้แก่เรา 8 อย่าละอายที่จะเป็นพยานฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา หรือฝ่ายตัวข้าพเจ้าที่ถูกจำจองอยู่เพราะเห็นแก่พระองค์ แต่จงมีส่วนในการยากลำบาก เพื่อเห็นแก่ข่าวประเสริฐ โดยอาศัยฤทธิ์เดชแห่งพระเจ้า 9 ผู้ทรงช่วยเราให้รอด และทรงให้เรามาเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ ไม่ใช่เพราะเห็นแก่การดีที่เราได้กระทำ แต่เพราะเห็นแก่พระประสงค์ของพระองค์เอง และพระคุณซึ่งทรงประทานแก่เรา ในพระเยซูคริสต์ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์มานั้น 10 และบัดนี้ได้ทรงสำแดงให้ประจักษ์ โดยการที่พระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเราเสด็จมา ผู้ได้ทรงกำจัดความตายให้สูญสิ้น และได้ทรงกระทำให้ชีวิตและสภาพอมตะกระจ่างแจ้ง โดยข่าวประเสริฐ 11 สำหรับข่าวประเสริฐนั้น ข้าพเจ้าได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ประกาศ เป็นอัครทูตและเป็นครู 12 เพราะเหตุนั้นเองข้าพเจ้าจึงได้ทนทุกข์ลำบากเช่นนี้ ถึงกระนั้นข้าพเจ้าก็ไม่ละอาย เพราะว่าข้าพเจ้ารู้จักพระองค์ที่ข้าพเจ้าได้เชื่อ และข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า พระองค์ทรงสามารถรักษาซึ่งข้าพเจ้าได้มอบไว้กับพระองค์ (หรือ ซึ่งพระองค์ได้ทรงมอบให้แก่ข้าพเจ้า) จนถึงวันพิพากษาได้ 13 จงประพฤติตามแบบแห่งคำสอนอันมีหลักที่ท่านได้ยินจากข้าพเจ้า ด้วยความเชื่อและความรักซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์ 14 จงรักษาความจริงซึ่งได้ทรงมอบไว้แก่ท่านโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งทรงสถิตอยู่ภายในเรา 15 ท่านก็ทราบแล้วว่าคนทั้งปวงที่อยู่ในแคว้นเอเชียนั้น ต่างก็ผละไปจากข้าพเจ้าหมด ในพวกนั้นมีฟีเจลัสและเฮอร์โมเกเนสรวมอยู่ด้วย 16 ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเมตตาแก่ครอบครัวของโอเนสิโฟรัสด้วยเถิด เพราะเขาได้กระทำให้ข้าพเจ้าชื่นใจบ่อยๆเขาไม่มีความรังเกียจโซ่ตรวนของข้าพเจ้าเลย 17 แต่เมื่อเขามาถึงกรุงโรม เขาได้อุตส่าห์สืบหาข้าพเจ้าจนพบ 18 และเขาได้รับใช้ข้าพเจ้าที่เมืองเอเฟซัสมากเพียงใด ท่านก็รู้ดีอยู่แล้ว ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงโปรดประทานพระเมตตาแก่เขา ในวันพิพากษาด้วยเถิด
Setting
ตั้งค่าพระตัมภีร์หล้ก
Font
S
M
L
X
XL
ตั้งค่าพระตัมภีร์รอง
Font
S
M
L
X
XL

Background
พระคำภีร์เสียงภาษาไทย ฉบับ 1971

2 Timothy 1
1 Paul, an apostle of Jesus Christ by the will of God, according to the promise of life which is in Christ Jesus, 2 To Timothy, [my] dearly beloved son: Grace, mercy, [and] peace, from God the Father and Christ Jesus our Lord. 3 I thank God, whom I serve from [my] forefathers with pure conscience, that without ceasing I have remembrance of thee in my prayers night and day; 4 Greatly desiring to see thee, being mindful of thy tears, that I may be filled with joy; 5 When I call to remembrance the unfeigned faith that is in thee, which dwelt first in thy grandmother Lois, and thy mother Eunice; and I am persuaded that in thee also. 6 Wherefore I put thee in remembrance that thou stir up the gift of God, which is in thee by the putting on of my hands. 7 For God hath not given us the spirit of fear; but of power, and of love, and of a sound mind. 8 Be not thou therefore ashamed of the testimony of our Lord, nor of me his prisoner: but be thou partaker of the afflictions of the gospel according to the power of God; 9 Who hath saved us, and called [us] with an holy calling, not according to our works, but according to his own purpose and grace, which was given us in Christ Jesus before the world began, 10 But is now made manifest by the appearing of our Saviour Jesus Christ, who hath abolished death, and hath brought life and immortality to light through the gospel: 11 Whereunto I am appointed a preacher, and an apostle, and a teacher of the Gentiles. 12 For the which cause I also suffer these things: nevertheless I am not ashamed: for I know whom I have believed, and am persuaded that he is able to keep that which I have committed unto him against that day. 13 Hold fast the form of sound words, which thou hast heard of me, in faith and love which is in Christ Jesus. 14 That good thing which was committed unto thee keep by the Holy Ghost which dwelleth in us. 15 This thou knowest, that all they which are in Asia be turned away from me; of whom are Phygellus and Hermogenes. 16 The Lord give mercy unto the house of Onesiphorus; for he oft refreshed me, and was not ashamed of my chain: 17 But, when he was in Rome, he sought me out very diligently, and found [me]. 18 The Lord grant unto him that he may find mercy of the Lord in that day: and in how many things he ministered unto me at Ephesus, thou knowest very well.
อ่านบทต่อไป




สงวนลิขสิทธิ ℗ 2011 iChurch.in.th ติดต่อเรา หรือ แนะนำติชม