บทที่
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21
1 2 3 4
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
1 2 3 4 5 6 7 8
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14
1 2 3
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
1 2 3 4
1 2 3 4 5 6 7
1 2 3
1 2 3
1 2 3
1 2
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14
1 2 3 4
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13
1 2 3 4 5 6
1 2 3 4 5 6
1 2 3 4
1 2 3 4
1 2 3 4 5
1 2 3
1 2 3 4 5 6
1 2 3 4
1 2 3
1
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13
1 2 3 4 5
1 2 3 4 5
1 2 3
1 2 3 4 5
1
1
1

อ่านบทต่อไป
อ่านบทก่อนหน้า
พระเยซูทรงเป็นใหญ่กว่าโมเสส
1 เหตุฉะนั้น ดูก่อนท่านพี่น้องธรรมิกชน ผู้ตอบสนองด้วยกันกับเราในการที่พระเจ้าทรงเรียก จงนึกถึงอัครทูตและมหาปุโรหิตผู้ซึ่งเราเชื่อและรับนั้น คือพระเยซู 2 พระองค์ทรงซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าผู้ได้ทรงแต่งตั้งพระองค์ไว้ เหมือนอย่างโมเสสซื่อสัตย์ต่อชุมนุมชน อันเป็นครอบครัวของพระเจ้า 3 แต่ถึงกระนั้นพระเยซูก็ทรงได้รับพระเกียรติมากกว่าโมเสสมากนัก เช่นเดียวกับต้นตระกูลย่อมมีเกียรติมากกว่าครอบครัว 4 ด้วยว่าทุกครอบครัวต้องมีต้นตระกูล แต่ว่าต้นเหตุของสรรพสิ่งทั้งปวงก็คือพระเจ้า 5 ในชุมนุมชนอันเป็นครอบครัวของพระเจ้า โมเสสนั้นซื่อสัตย์ในฐานะผู้รับใช้เพื่อเป็นพยานในเรื่องต่างๆซึ่งพระเจ้าจะตรัสในภายหลัง 6 แต่พระคริสต์นั้นทรงซื่อสัตย์ในฐานะพระบุตร ที่ทรงอำนาจเหนือชุมนุมชนอันเป็นครอบครัวของพระเจ้า และเราทั้งหลายเป็นครอบครัวนั้นแหละ หากเราจะยึดความกล้าหาญและความภูมิใจในความหวังนั้นไว้ 7 เหตุฉะนั้น ตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสว่า วันนี้ถ้าท่านทั้งหลายฟังพระสุรเสียงของพระองค์ 8 อย่าให้จิตใจของท่านดื้อรั้นอย่างในครั้งกบฏนั้น เหมือนอย่างในวันที่ทดลองในถิ่นทุรกันดาร 9 ซึ่งบรรพบุรุษของท่านทดลองเราโดยเอาเราเข้าพิสูจน์ ถึงแม้ว่าเขาเห็นการกระทำของเราตลอดสี่สิบปี 10 เพราะเหตุนั้นเราจึงพิโรธคนเหล่านั้น และว่า "ใจของเขาหลงผิดอยู่เสมอ เขาไม่รู้จักทางของเรา" 11 ตามที่เราปฏิญาณด้วยความพิโรธว่า "เขาจะไม่ได้เข้าสู่การพำนักซึ่งเราจัดให้ 12 ดูก่อน ท่านพี่น้องทั้งหลาย จงระวังให้ดี เพื่อจะไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดในพวกท่านมีใจชั่วและไม่เชื่อ คือใจซึ่งพาท่านหลงไปจากพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ 13 ท่านจงเตือนสติกันและกันทุกวัน ตลอดเวลาที่เรียกว่า "วันนี้" เพื่อว่าจะไม่มีผู้ใดในพวกท่านมีใจแข็งกระด้างไป เพราะเล่ห์กลของบาป 14 เพราะเรามีส่วนร่วมกับพระคริสต์ ถ้าเราเพียงแต่ยึดความไว้วางใจที่เรามีอยู่ ในตอนต้นไว้ให้มั่นคงจนถึงที่สุด 15 เมื่อมีคำกล่าวไว้ว่า วันนี้ถ้าท่านทั้งหลายจะฟังพระสุรเสียงของพระองค์อย่าให้จิตใจของท่านดื้อรั้นอย่างในครั้งกบฏนั้น 16 ใครหนอที่ได้ยินแล้วแต่ยังได้กบฏก็คือ ทุกคนที่โมเสสได้นำออกจากประเทศอียิปต์มิใช่หรือ 17 และใครหนอที่พระองค์ได้ทรงพระพิโรธตลอดสี่สิบปีนั้น ก็คนเหล่านั้นที่กระทำบาป และซากศพของเขาทิ้งอยู่ในถิ่นทุรกันดารมิใช่หรือ 18 และแก่ใครหนอที่พระองค์ได้ทรงปฏิญาณว่า เขาจะไม่ได้เข้าสู่การพำนักซึ่งพระองค์ทรงประทาน ก็คนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อฟังมิใช่หรือ 19 ฉะนั้นเราจึงรู้ว่า เขาไม่สามารถเข้าไปสู่การพำนักนั้นได้ก็เพราะเขาไม่ได้เชื่อ
Setting
ตั้งค่าพระตัมภีร์หล้ก
Font
S
M
L
X
XL
ตั้งค่าพระตัมภีร์รอง
Font
S
M
L
X
XL

Background
พระคำภีร์เสียงภาษาไทย ฉบับ 1971

Hebrews 3
1 Wherefore, holy brethren, partakers of the heavenly calling, consider the Apostle and High Priest of our profession, Christ Jesus; 2 Who was faithful to him that appointed him, as also Moses [was faithful] in all his house. 3 For this [man] was counted worthy of more glory than Moses, inasmuch as he who hath builded the house hath more honour than the house. 4 For every house is builded by some [man]; but he that built all things [is] God. 5 And Moses verily [was] faithful in all his house, as a servant, for a testimony of those things which were to be spoken after; 6 But Christ as a son over his own house; whose house are we, if we hold fast the confidence and the rejoicing of the hope firm unto the end. 7 Wherefore (as the Holy Ghost saith, To day if ye will hear his voice, 8 Harden not your hearts, as in the provocation, in the day of temptation in the wilderness: 9 When your fathers tempted me, proved me, and saw my works forty years. 10 Wherefore I was grieved with that generation, and said, They do alway err in [their] heart; and they have not known my ways. 11 So I sware in my wrath, They shall not enter into my rest.) 12 Take heed, brethren, lest there be in any of you an evil heart of unbelief, in departing from the living God. 13 But exhort one another daily, while it is called To day; lest any of you be hardened through the deceitfulness of sin. 14 For we are made partakers of Christ, if we hold the beginning of our confidence stedfast unto the end; 15 While it is said, To day if ye will hear his voice, harden not your hearts, as in the provocation. 16 For some, when they had heard, did provoke: howbeit not all that came out of Egypt by Moses. 17 But with whom was he grieved forty years? [was it] not with them that had sinned, whose carcases fell in the wilderness? 18 And to whom sware he that they should not enter into his rest, but to them that believed not? 19 So we see that they could not enter in because of unbelief.
อ่านบทต่อไป
อ่านบทก่อนหน้า




สงวนลิขสิทธิ ℗ 2011 iChurch.in.th ติดต่อเรา หรือ แนะนำติชม